กลยุทธ์การป้องกันการแข่งขัน (Strategies to Defend Against New Competitor) โดย ศศิมา สุขสว่าง

เก๋ได้ไปอ่านบทความหนึ่งที่น่าสนใจที่เขียนโดยคุณ RICHARD SELLERS เกี่ยวกับกลยุทธ์ป้องกันการแข่งขันที่ใช้ในเวลาที่เรามีคู่แข่งทางการตลาดขึ้นมาแบบ ทำสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ แบบเดียวกัน หรือแย่งลูกค้าเราต้องทำอย่างไรบ้าง  

.

ทีนี้เก๋เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพื่อให้ทั้งคนที่อยู่ในตลาดเดิม รวมทั้งรายใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในตลาดอ่าน จะได้รู้บริบททั้งหมด  เก๋มองว่าในทุกอุตสาหกรรม ทุกสินค้าและบริการ ควรมีการแข่งขัน เพื่อที่จะได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสินค้าอย่างต่อเนื่อง หากมีใครเป็นเจ้าตลาดอยู่เพียงไม่กี่เจ้า ผลเสียก็จะตกอยู่ที่ลูกค้าหรือผู้บริโภคนะคะ ดังนั้นอ่านแล้วก็ลองเอาไปปรับดูนะคะว่าเราจะใช้ยังไงในบริบทของบริษัทเราค่ะ 

 

 

กลยุทธ์การป้องกันการแข่งขัน (Strategies to Defend Against New Competitor) และถ้าเราจะไปแข่งขัน ต้องรู้อะไรบ้าง

 

1. ไม่สนใจ (Ignore)

บ่อยครั้งวิธีที่ดีที่สุดคือการเพิกเฉยต่อคู่แข่งรายใหม่ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่เป็นอันตรายหรือกำหนดเป้าหมายโดยตรงกับธุรกิจของคุณอย่างที่คุณคิดในตอนแรก

ข้อดีสามประการของกลยุทธ์ "ไม่ลงมือทำ" คือ:

- ป้องกันการเสียเงินโดยใช่เหตุ หากมีการไม่ดำเนินการสิ่งที่ไม่มีประสิทธิภาพ

- ประหยัดทรัพยากรที่จะใช้

- ขจัดความเสี่ยงในการทำบางสิ่งที่จะย้อนกลับมาและเป็นอันตรายต่อธุรกิจของคุณ

แต่การไม่สนใจนี้ ในอนาคตอาจจะทำให้คู่แข่งแข็งแกร่งและเติบโตขึ้นได้ ก็ต้องดูบริบทของสินค้าและบริการนั้นๆด้วยนะคะว่ามีความสำคัญต่อธุรกิจของเราหรือเปล่า  เพราะบางครั้งการมีคู่แข่ง ก็ทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการของเราดูดีขึ้นได้ค่ะ

 

2. ทำแบรนด์ของคุณให้แข็งแกร่ง (Strengthen Brand)

กลยุทธ์ที่ดีและควรนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังคือ ทำแบรนด์ของเราให้แข็งแกร่ง ทำสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ดีมีคุณค่าตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด และปรับปรุงสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ เช่น 

- สื่อสารข้อความของคุณบ่อยขึ้น / สื่อสารกับผู้คนจำนวนมากขึ้น 

- ดำเนินการส่งเสริมการขายที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ดีประสบความสำเร็จ

- เสริมสร้างประสบการณ์ในจุด Touch Point ของผู้บริโภคให้น่าจดจำในทางบวกมากขึ้น

- ขจัดความ Pain Point ของลูกค้า และ

- ฝึกให้ทุกคนรับฟังและตอบกลับกับลูกค้าในเชิงบวกและให้ความสำคัญ

เป็นต้น

 

 

3. ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณมีมาตั้งแต่ต้น (Leverage the benefits of being established) 

การที่ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินการมาได้จนถึงปัจจุบัน แสดงว่า ต้องมีจุดแข็งหลายอย่างที่คู่แข่งหน้าใหม่ๆอาจจะไม่สามารถแข่งขันได้ เช่น 

- ลูกค้า  ถ้าใครยังไม่เคยเก็บข้อมูลลูกค้าเลย ต้องรีบ เพราะเดี๋ยวนี้ใครมีข้อมูลลูกค้า มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ

- ฐานข้อมูล

- ระบบต่างๆ

- พนักงานที่มีคุณค่า

- ซัพพลายเออร์ (ในฐานะหุ้นส่วนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน)

- พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าของคุณและ

- สิ่งที่สำคัญที่สุด: ประสบการณ์ในอดีตที่สอนคุณว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล ไม่ต้องมาลองผิดลองถูกในเรื่องเดิมๆ และสามารถเริ่มทำในสิ่งใหม่ๆก้าวไปข้างหน้าได้

 

4. การยกระดับสินค้าหรือบริการ (Up Grade)

การเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าหรือบริการนั้น สามารถยกระดับ และพัฒนาปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้มาก เช่น 

- การยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวก

- การปรับปรุงผลิตภัณฑ์

- การเพิ่มบริการและ

- การขยายการตลาดและการบริการลูกค้า (เช่น Social media และการปรับปรุงเว็บ)

- การเพิ่มหรือขยายเวลา ต่อเวลาเพิ่มขึ้น

- พนักงานมากขึ้น

- พนักงานมีคุณภาพดีกว่า

- การฝึกอบรมที่ดีขึ้น

- การจองล่วงหน้า

ฯลฯ

 

5. การทุ่มเงิน :

บริษัทใหญ่ๆหลายบริษัทที่มีเงินถุง เงินถังที่สายป่านยาว ก็ยอมจ่ายเงิน ทุ่มเงินเยอะเพื่อป้องกันคู่แข่งรายใหม่ เพื่อไม่ให้มาเป็นคู่แข่งที่เติบโต ทำงานบ้าง เช่น 

1) ออกโปรแกรมส่งเสริมการขาย (Promotion) เช่น 

- คูปองต่างๆ

- บัตรสมาชิก, สะสมแต้มหรือคะแนน

- การสาธิต, การให้ลองใช้บริการ

- สินค้า / บริการพิเศษ เช่น ซื้อ 1 แถม 1 , ซื้อครบ.... บาท แลกซื้อสินค้ามูลค่า....บาทหรือแถมอันโน่นนี่, รับเงินคืน, มีของสัมมนาคุณ , ตั๋วท่องเที่ยว, ชิงโชคใหญ่  เป็นต้น

 

2) ทำราคาต่ำกว่า (Under Price)

การลดราคาผลิตภัณฑ์ / บริการที่มีการแข่งขันโดยตรง ซึ่งบางบริษัทก็ไปลด แล้วไปเพิ่มราคาสินค้าอีก SKU อื่น เพื่อรักษาส่วนต่างที่เสียไป อันนี้เรียกว่า สงครามราคา ไม่ว่าแบรนด์ไหนทำก็มีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายไปกันหมดค่ะ


ในโลกนี้ยังมี กลยุทธ์การป้องกันการแข่งขัน (Strategies to Defend Against New Competitor) อีกมากมายนอกเหนือจากบทความนี้นะคะ ลองศึกษากันไปเรื่อยๆ แม้จะยังไม่ได้ใช้นะคะ เมื่อวันหนึ่งเมื่อเราต้องใช้ มันจะผุดขึ้นมาในสมองเรา เป็น Connection the dot นะคะ 

 

หลายๆเรื่องน่าสนใจนะคะ เก๋อ่านแล้วก็เอามาใช้กับธุรกิจฝึกอบรมของตัวเองเหมือนกัน สิ่งที่เก๋ทำส่วนใหญ่  คือเก๋จะพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการในการฝึกอบรมของเก๋ให้ดีขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้ตอบโจทย์ และช่วยให้ลูกค้าได้สิ่งที่หวังผลลัพธ์มากที่สุดค่ะ ไม่ค่อยได้ทำแบรนด์เพราะอยากมีความสุข  หรือ ไปสู้เรื่องราคา กับใคร


 เก๋ เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านในการพัฒนานวัตกรรม และหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านนะคะ  ขอบคุณที่ทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้นะคะ  มีความสุข มากๆค่ะ 


 อ้างอิง : https://www.shellypalmer.com/

....................................

- สนใจหลักสูตร "  Design Thinking for Innovation Developmentวิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง ดูรายละเอียด กดที่นี่ 

- สนใจหลักสูตร " Analytical Thinking ทักษะการคิดวิเคราะห์ " วิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง ดูรายละเอียด กดที่นี่ 

- สนใจหลักสูตร " Critical thinking  ทักษะการคิดวิพากษ์ " วิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง ดูรายละเอียด กดที่นี่ 

- สนใจหลักสูตร " Creative thinking  to Innovation ทักษะการคิดสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรม " วิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง ดูรายละเอียด กดที่นี่ 

- สนใจหลักสูตรอื่นๆ ในการพัฒนานวัตกรรมและพัฒนาองค์กร  ดูรายละเอียดทั้งหมด กดดูที่นี่   

...................................... 

Creative to Innovation เป็นพื้นที่แบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวคิดเรื่องกระบวนการและเทคนิคการคิดสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรม  โดยถ่ายทอดจากประสบการณ์การทำงานด้านการวิจัยพัฒนานวัตกรรม ให้คำปรึกษา การสอนด้านการพัฒนานวัตกรรมของผู้เขียน (ศศิมา) ซึ่งเป็นนักพัฒนานวัตกรรมหรือนวัตกร (Innovator)  และผันตัวมาแบ่งปัน อบรมสัมมนาให้คำปรึกษาด้านการพัฒนานวัตกรรม  โดยการอบรมสัมมนาจะยึดหลัก 3Fs - Fun (สนุก) -Full (เต็มไปด้วยสาระ) - Friend (มิตรภาพการทำงานเป็น Team Work)

.................................

ติดตามข่าว เรื่องความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และแลกเปลี่ยนเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรม หรือติดต่อวิทยากรอบรม In-House training หลักสูตรความคิดสร้างสรรค์  การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรม (Product Development and Innovation) ได้ที่

ศศิมา สุขสว่าง (เก๋)

E-mail : sasimasuk.com@gmail.com

Website : www.sasimasuk.com

line ID : sasimasuk.com 

Facebook : https://www.facebook.com/CreativetoInnovation

Tel. : 081-560-9994 

 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

หรือส่งข้อมูลมาทาง sasimasuk.com@gmail.com ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 1 วันค่ะ
Visitors: 328,169