ทักษะการฟังอย่างเข้าใจและใส่ใจ (Empathic listening) โดย อ.ศศิมา สุขสว่าง
ทักษะการฟังอย่างเข้าใจเชิงลึก (Empathic Listening) เพื่อค้นหาความต้องการของลูกค้าและพัฒนานวัตกรรมนั้นเป็นทักษะที่สำคัญอีกทักษะหนึ่งในกระบวนการการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เพื่อค้นหาความต้องการของลูกค้าเชิงลึกของลูกค้า Pain Point ความต้องการ ปัญหาต่างๆ เพื่อนำมาสร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆและพัฒนานวัตกรรม
(เนื้อหาโดยอ.ศศิมา สุขสว่าง - อ. เก๋ - หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดอีเมล์แจ้งขออนุญาตก่อนที่ sasimasuk.com@gmail.com หรือใส่เครดิต อ.ศศิมา สุขสว่าง www.sasimasuk.com ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ)
ทักษะการฟังอย่างเข้าใจเชิงลึก (Empathic Listening) นั้น เป็นทักษะที่สำคัญมาก เพราะในหลายองค์กร นวัตกรรมไม่เกิด เพราะคนในองค์กรไม่ฟังความคิดเห็นกัน ไม่ฟังอย่างใส่ใจ ทำให้ไม่เห็นปัญหาเล็กๆที่เกิดขึ้น หรือไม่ได้รับรู้ปัญหาจากลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งบางครั้งปัญหาเล็กๆบางครั้ง ก่อให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถสร้างนวัตกรรมและสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้
ทักษะการฟังอย่างเข้าใจเชิงลึก (Empathic Listening) เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์ลูกค้านั้น ต้องฟังให้ลึกถึงความรู้สึก ความเชื่อ ความคิด คุณค่า Pain Point, Gain Point สามารถจับประเด็นและได้ยินในสิ่งที่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายไม่ได้พูดและจับประเด็นออกมาได้ ซึ่งต้องฟังทั้งคำพูดที่เขาพูดออกมา และฟังในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมา ซึ่งต้องสังเกตทั้งภาษาพูด โทนเสียง และภาษาร่างกาย (Body language)
ทักษะการฟังอย่างใส่ใจนั้น เราสามารถแบ่งระดับของการฟังได้ เป็น 5 ระดับดังนี้
ระดับ 1 ไม่สนใจฟัง (Non-Listening)
ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายจะพูดอะไรก็แล้วแต่ เราไม่สนใจฟัง หรือฟังหูซ้าย ทะลุหูขวา ยิ่งเวลานี้ที่หลายคนใช้สื่อโซเชียลมีเดียเยอะ แทบจะปิดตัวเองลงไปอยู่บนหน้าจอเลย ทั้งๆที่นั่งคุยกันอยู่เป็นกลุ่ม หรือในการประชุมคนพูดๆก็พูดไป คนฟังพอไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องคนฟังก็สไลด์หน้าจอไป ไม่มีการฟังเกิดขึ้น หมือนคนพูด พูดอยู่คนเดียวหน้ากระจกนั่นเอง หรือบางครั้งไม่ได้ฟัง เพราะพอฟังได้นิดนึง ก็อยากจะแนะนำ บอก สอน หรือถ่ายทอดความรู้ หรือเครื่องมือ สินค้าของเราให้กับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าทันที โดยไม่ได้ฟังปัญหาอย่างแท้จริงของกลุ่มเป้าหมายเลย
ระดับ 2 แกล้งฟัง (Pseudo listening)
เป็นการทำกริยาท่าทางเหมือนฟัง มีตอบรับ ค่ะ อ้อ พยักหน้า หรือขณะที่ฟังก็คิดอยู่ในหัวว่า เดี๋ยวจะพูดอะไรต่อหรือ จะแนะนำอะไรคนข้างหน้าดี หรือจะให้คำปรึกษาอย่างไรดี คือไม่ได้อยู่กับคนข้างหน้า 100% จึงไม่สามารถจับประเด็นเชิงลึกได้ทั้งหมด บางครั้งให้ทบทวนว่า ได้ยินอะไรบ้าง ตอบได้เพียงเล็กน้อย เพราะไม่ได้ฟังจริงๆ
ระดับ 3 เลือกฟัง (Defensive Listening)
เป็นการฟังเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ใคร่รู้ เรื่องที่ตนเองคิดว่ามีประโยชน์ เรื่องใดไม่สนใจ ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ก็ไม่ใส่ใจ หรือจับประเด็น หรือประเด็นไหนที่ค้านกับความเชื่อ ประสบการณ์ หรือบางทีไม่ตรงกับสิ่งที่กำลังจะพัฒนานวัตกรรมอยู่ก็ไม่ใส่ใจ หรือเปลี่ยนประเด็น ที่เก๋เจอ มักจะเป็นกับหลายคนที่พัฒนานวัตกรรมมาเป็นต้นแบบ แล้วต้องเช็ค feedback สุดท้ายก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์ พอลูกค้าให้ feedback ที่ไม่ตรงใจหรือแนวทางของผลิตภัณฑ์ก็ไม่ใส่ใจ เพราะกลัวต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่หรือเสียเวลากับต้นแบบที่ทำมาเยอะแล้ว กลัวนายด่า กลัว Project Sponsor ไม่จ่ายตังค์ เลย เลือกฟังแต่ feedback ที่ตรงใจ (ปล. เอาตรงๆ เก๋ก็เคยเป็นมาก่อนค่ะ ตอนที่เป็น R&D Engineer ผ่านมาเยอะแล้ว เจ็บมาก็เยอะค่ะ )
ระดับ 4 ตั้งใจฟัง (Appreciative Listening)
เป็นการฟังที่ดีขึ้นมาอย่างมาก รับรู้รับฟัง เรื่องราวเนื้อหาของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย มีการตอบสนองทางคำพูด ภาษากาย (Body language) หรือตอบรับคำว่า ได้เข้าใจและรับรู้เรื่องราวต่างๆ ฟังเก็บข้อมูลได้ครบเนื้อหาทุกสิ่งอย่าง แต่ไม่เข้าใจจุดเจ็บปวดและความต้องการที่อยู่ข้างในลึกๆของลูกค้า
ระดับ 5 ฟังแบบเข้าอกเข้าใจและใส่ใจ (Empathy Listening)
เป็นการฟังแบบเข้าใจองค์รวมทั้งเนื้อหา อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ปัญหา (Problem) ความเจ็บปวด (Pain Point) ความต้องการ (need, want , Gain Point)ของลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย โดยผู้ฟัง ฟังในกรอบของผู้พูด โดยไม่ใช่ความเป็นตัวตนของตัวเองไปตัดสินหรือประเมินใดๆ เป็นการฟังด้วยหัวใจ (listen with heart) ฟังอย่างเข้าใจในตัวตนของผู้พูดจริงๆ การฟังระดับนี้นอกจากผู้ฟังจะสามารถเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน (insight) แล้ว ยังสามารถสะท้อนความรู้สึก ความคิด หรืออารมณ์ของผู้พูดในขณะที่ผู้พูดพูดออกมา แต่ไม่รู้ตัวว่าได้แสดงอารมณ์ หรือความรู้สึกอะไรออกมาบ้าง ผู้ฟังจะสามารถได้ยินเสียงที่ผู้พูดไม่ได้พูดออกมาด้วย ซึ่งมาจากสิ่งที่พูดออกมา โทนเสียง และภาษากาย (Body language) ทั้งหมด แล้วสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆ หรือนวัตกรรมได้ ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็น Product Innovation, Service Innovation, หรือแม้แต่ Process Innovation หรือนวัตกรรมแบบอื่นๆอีกมากมาย (อ่านบทความ 10 รูปแบบนวัตกรรม กดที่นี่)
(เนื้อหาโดยอ.ศศิมา สุขสว่าง - อ. เก๋ - หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โปรดอีเมล์แจ้งขออนุญาตก่อนที่ sasimasuk.com@gmail.com หรือใส่เครดิต อ.ศศิมา สุขสว่าง www.sasimasuk.com ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ)
การฟังในระดับ 1-4 ผู้ฟัง ยังฟังอยู่ในกรอบของตัวเองอยู่ - กล่าวคือ ยังมีอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกของคนฟังไปเป็นกรอบในการฟังผู้พูดอยู่
แต่การฟังระดับ 5 นั้น ผู้ฟังๆในกรอบของผู้พูดและละทิ้งตัวตนของผู้ฟังเอง ไม่ตัดสิน ซึ่งการฟังระดับ 5 นั้น หากฝึกการฟังอย่างใส่ใจบ่อยๆ ฝึกสติบ่อย สามารถทำได้อย่างแน่นอนค่ะ
ลองไปฝึกฟังนะคะ แล้วคุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงค่ะ
เก๋ หวังว่า บทความนี้ "ทักษะการฟังอย่างเข้าใจเชิงลึก (Empathy listening) " จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่เสียสละเวลามาอ่านและสนใจนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
.........................................................
- สนใจหลักสูตร " Design Thinking for Innovation Development" วิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง ดูรายละเอียด กดที่นี่
- สนใจหลักสูตร " Creative to Innovation การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรม " วิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง ดูรายละเอียด กดที่นี่
- สนใจหลักสูตรอื่นๆ ในการพัฒนานวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ดูรายละเอียดทั้งหมด กดดูที่นี่
.....................................................
ติดตามข่าว เรื่องความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และแลกเปลี่ยนเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรม หรือติดต่อวิทยากรอบรม In-House training หลักสูตรความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรม (Product Development and Innovation) ได้ที่
ศศิมา สุขสว่าง (เก๋)
E-mail : sasimasuk.com@gmail.com
Website : www.sasimasuk.com
line ID : sasimasuk.com
Facebook : https://www.facebook.com/CreativetoInnovation
Tel. : 081-560-9994
-
หลักสูตร "Design Thinking for Innovation Developmentพัฒนานวัตกรรมด้วย Design Thinking" วิทยากร อ.ศศิมา สุขสว่าง (เนื้อหาโดยอ.ศศิมา สุขสว่าง - อ. เก๋ - หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิช...
-
Design Thinking คือ กระบวนการคิดเชิงออกแบบสำหรับพัฒนานวัตกรรมที่ผสมผสานการคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) และการคิดเชิงธุรกิจ (Business thinking) เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆและนวัตกรรมอย...
-
Design Thinking เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการสร้างนวัตกรรมได้เป็นอย่างดี โดยเน้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายเป็นจุดศูนย์กลาง (Human Centered) Design Thinking เป็นกร...
-
ในปัจจุบัน กระแสของ Design thinking ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรม ได้เป็นที่กล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นเครื่องมือที่มีรวมกระบวนการทั้งด้านวิทย์และธุรกิจมารวมกัน ...
-
ปัจจุบัน Design thinking เป็นกระบวนการหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรม ที่กล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นเครื่องมือที่มีรวมกระบวนการทั้งด้านวิทย์และธุรกิจมารวมกัน โดยโดยเน้นเพื่อตอบโจทย...
-
ปัจจุบัน Design thinking เป็นกระบวนการหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรม ที่กล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นเครื่องมือที่มีรวมกระบวนการทั้งด้านวิทย์และธุรกิจมารวมกัน โดยโดยเน้นเพื่อตอบโจทย...
-
Design Thinking เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่ผสมผสานการคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) และการคิดเชิงธุรกิจ (Business thinking) ที่เน้นคนแล...
-
Design Thinking เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการสร้างนวัตกรรมโดยเน้น การแก้ปัญหาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายเป็นจุดศูนย์กลาง (Human Centered หรือ People Centered) (เนื้...
-
Empathize เป็น การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง เข้าใจในปัญหา ความกังวล (Pain Point) ความต้องการ (Gain Point) ความจำเป็น อารมณ์ความรู้สึก การกระทำที่ออกมา ความหมายในสายตาของก...
-
การระดมสมอง หรือการระดมความคิด (Brainstorm) เพื่อปลุกไอเดียสร้างสรรค์ เป็นเทคนิคหนึ่งที่นิยมนำมาใช้ในการระดมความคิดเพื่อหาไอเดียสร้างสรรค์ไหม่ๆ หรือใช้ในระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหา ...
-
หลังจากที่เราได้พัฒนาต้นแบบใหม่ๆหรือนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อที่จะนำไปพัฒนาเพื่อเป็นนวัตกรรมของบริษัทนั้น คนแรกที่เราจะต้องขายไอเดียให้ได้ก่อน อาจจะเป็น หัวหน้าเรา ผู้จัดการ ผู้อำนวยการห...
-
เราเคยเห็นเกมโชว์ที่ มีคำอธิบายเป็นประโยค แล้วให้คนที่ 1 อ่าน แล้วคนที่ 1 ต้องถ่ายทอดต่อไปคนที่ 2 แล้วคนที่ 2 บอกต่อไปคนที่ 3 ต่อไปเรื่อยๆจนถึงคนสุดท้าย สรุปสุดท้ายประโยคที่กำหนด ก...
-
หลายครั้งที่เก๋ไปแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมโดยใช้ Design thinking ซึ่งหลักการคือต้อง Empathy ลูกค้า ลูกน้อง หรือ Stake holder เพื่อให้เข้าใจปัญหาและ Pain Point จ...
-
คุณค่า คือสัมการของการลดหรือบรรเทาจุดเจ็บปวดของลูกค้า + การสร้างสรรค์ผลตอบแทน + ผลิตภัณฑ์ / บริการที่พัฒนาให้กับลูกค้า หรือ เขียนเป็นสัมการ คือ Value = Pain Relief + Gain Creation...
-
หลายครั้งที่เราได้รับรู้ปัญหา และ Pain Point ของลูกค้าแล้ว ซึ่งมันอาจจะเยอะไปหมด จนไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาไหนก่อนหลัง ให้มีประสิทธิภาพและ impact ที่จะเกิดประโยชน์ที่สุดทั้งต่อลูกค้าแ...
-
วันนี้เก๋มาแบ่งปัน เทคนิค 10-Minute Time-jump หรือการข้ามเวลา 10 นาที เป็นวิธีที่ใช้สังเกตพฤติกรรมของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เข้าใจสภาวะ ความรู้สึก ปัญหา Pain , Gain ของลูก...