5 วิธีพัฒนาลูกน้องให้เก่งขึ้น โดยศศิมา สุขสว่าง

ปัจจุบัน บริษัทต่างๆมีโปรแกรมสำหรับพัฒนาการเรียนรู้ของบุคคลากรในบริษัท โดยใช้งบประมาณสูงมากในปีหนึ่งๆ แล้วก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ตรงกับที่ผู้เรียนต้องการบ้าง ไม่ตรงบ้าง ซึ่งจากบทความข้างต้น ก็มีได้ไปทำการวิจัย แล้วก็มาสรุปว่า ในการพัฒนาบุคลากรที่ได้ผลและเกิดประสิทธิภาพ จริงๆ นั้น มีแนวทางต่อไปนี้

 

5 วิธีพัฒนาลูกน้องให้เก่งขึ้น (5 Ways to improve your subordinates)


1. ปั้นหัวหน้าให้เป็นโค้ช (Coach)และพี่เลี้ยง(Mentor) 

แล้วส่งผ่านความรู้ ทักษะ ความเข้าใจต่างๆ ด้วยการให้คำปรึกษา โค้ช และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง แล้วให้ฟีดแบค (Feedback) ดีๆกับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งองค์กรต้องให้การสนับสนุนและจูงใจให้หัวหน้า หรือผู้จัดการดำเนินงานนี้ด้วย เพราะจะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของบุคคลากรโดยตรง



2. สร้างความตระหนักให้พนักงานอยากเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง 

โดยการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้พนักงานเข้าใจและรักที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อประโยชน์ต่อตัวเอง และการทำงาน เช่น จะใช้เวลาทำงานสั้นลง ง่ายขึ้น เมื่อมีความชำนาญหรือมีความรู้มากขึ้น ฝึกฝนและพัฒนาวิธีการใหม่ๆในการทำงาน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพในเวลาอันสั้น ประหยัดทรัพยากร และแรงงาน และเมื่อพนักงานเก่งขึ้น ทำงานประสิทธิภาพสูงขึ้น องค์กรมีการสนับสนุนด้านทรัยพยากร เงิน หรือโบนัสพิเศษแบบต่างๆที่ไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น เป็นต้น

 

3. สนับสนุนและยืดหยุ่นในการเรียนรู้และพัฒนา 

พนักงานแต่ละคนมีความถนัดในการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน บางคนต้องปฏิบัติงานจริงโดยมีรุ่นพี่คอยประกบ บางคนเรียนรู้จากการอบรมสัมนา บางคนพัฒนาได้จากการไปเห็นของจริง เปิดหูเปิดตากับสิ่งใหม่ๆ องค์กรและพนักงานต้องมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันในการคิดหาโปรแกรมการพัฒนา รวมทั้งยืดหยุ่นเรื่องเวลา บางบริษัททำงานประจำเต็มเวลาแล้วยังไม่เสร็จต้องทำล่วงเวลาอีกไม่มีแม้แต่เวลาจะให้ไปฝึกฝนพัฒนาตัวเองแต่อย่างไร

 

4. ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างในการพัฒนาตัวเอง 

ปกติหัวหน้าหรือผู้นำจะถูกจับตามองจากทุกสายตาของลูกน้องอยู่แล้ว ดังนั้นหากต้องการให้พนักงานมีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง หัวหน้าต้อง "นำโดยตัวอย่าง" ทำให้เป็นตัวอย่างก่อน นั่นคือ 
ถ้าผู้จัดการต้องการให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และการพัฒนา แล้วก็ต้องแสดงให้เห็นว่าผู้จัดการมีความกระตือรือร้นในการใฝ่เรียนรู้เช่นกัน ไม่ใช่บอกให้ลูกน้องพัฒนาตัวเอง แต่หัวหน้าเองในแต่ละปีๆไม่เคยเก่งขึ้น ไม่เคยเข้าคอร์สอะไรเลย ตัวเก๋เอง ในแต่ละปีจะตั้งงบส่วนตัวไว้เลยว่า แต่ละปีๆจะพัฒนาตัวเองอย่างไรบ้าง แล้วไปหาคอร์สอบรมที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น หรือซื้อหนังสือ คอร์สออนไลน์ในการเรียนรู้มาพัฒนาตัวเอง

 

5. เลือกสื่อเรียนรู้ให้เหมาะสมกับช่วงวัย 

ปัจจุบันมีสื่อการเรียนรู้มากมาย ที่เป็นช่องทางลัดในการพัฒนาตัวเอง ทั้งยูทูป สื่อออนไลน์ คอร์สฝึกอบรมแบบ public ไปพบผู้เชี่ยวชาญตัวจริง โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เนต มากมายให้เลือกมาใช้ในการพัฒนาตัวเองค่ะ

 

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

70:20:10 model ในการเรียนรู้และพัฒนา กด ที่นี่

 ...........................................

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง

- หลักสูตร Self development and self Coaching for Performance Working : การพัฒนาตัวเองและการโค้ชตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน (ติดต่อ)

- หลักสูตร Mentoring and Coaching Skill for Leader (Manager) : ทักษะการโค้ชและเป็นพี่เลี้ยงสำหรับผู้นำ (หรือผู้จัดการหรือหัวหน้างาน) (ติดต่อ)

.............................................

ติดตามข่าว เรื่องความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม การพัฒนาตัวเอง ติดต่อวิทยากรอบรม หลักสูตรความคิดสร้างสรรค์  การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรม (Creative thinking to Innovation) In-House training ได้ที่

อ.ศศิมา สุขสว่าง (เก๋)
วิทยากร ที่ปรึกษา โค้ช ด้านการพัฒนานวัตกรรมและพัฒนาองค์กร

E-mail : sasimasuk.com@gmail.com
Website : www.sasimasuk.com

line ID : sasimasuk.com 
Facebook : https://www.facebook.com/CreativetoInnovation
Tel. : 081-560-9994 (โทรกลับเฉพาะเบอร์มือถือนะคะ)

Visitors: 329,351