การพัฒนาและการปรับตัวของคนทำงานในกระแส The Great Flattening โดยอ.ศศิมา สุขสว่าง

อาจารย์เก๋ -ศศิมา สุขสว่างได้เขียนบทความเกี่ยวกับ ‘‘The Great Flattening’’  องค์กรลดจำนวนชั้นบริหาร (อ่านบทความกดที่นี่) ไว้    เลยอยากต่อยอดมาเพิ่มเรื่องของ การพัฒนาและการปรับตัวของคนทำงานในบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ ในกระแส ‘‘The Great Flattening’’    เพราะในยุคที่องค์กรทั่วโลกกำลังเคลื่อนเข้าสู่แนวโน้มการลดจำนวนชั้นผู้จัดการและสร้างโครงสร้างองค์กรที่ Lean ขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดต้นทุนมากขึ้น แล้วนำเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Generative AI เข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้น  

 

กลุ่มคนทำงาน หรือกลุ่มผู้บริหาร  Gen X  ซึ่งมักอยู่ในตำแหน่งบริหารระดับกลาง ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการปรับตัวเพื่อรักษาความสำคัญและความก้าวหน้าในสายอาชีพ  อ.เก๋คิดว่า ในประเทศไทย The Great Flattening น่าจะเกิดขึ้นกับคนทำงาน Gen x และ Middle Managers  เช่นกันค่ะ

 

บทความนี้อ.เก๋มาอแบ่งปัน แนวทางการปรับตัว พัฒนาตัวเอง และเตรียมพร้อมสำหรับคนทำงาน , Middle Managers   และ Gen X ในกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ค่ะ

 

สรุป The Great Flattening และผลกระทบต่อ Middle Managers

‘‘The Great Flattening’’ เป็นแนวโน้มที่องค์กรลดระดับชั้นการบริหาร (Management Layers) และกระจายอำนาจการตัดสินใจให้กับพนักงานในระดับปฏิบัติการมากขึ้น ส่งผลให้บทบาทของ Middle Managers ซึ่งในอดีตเป็นตัวกลางในการสื่อสารและควบคุม อาจถูกลดความสำคัญหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก Gen X ซึ่งมักมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในสายงาน และมักจะอยู่ในระดับการบริหารขั้นตั้น หรือบริหารระดับกลาง อาจรู้สึกถึงความไม่แน่นอนในบทบาทหน้าที่และอนาคตในองค์กร

 

ผลกระทบจาก  ‘‘The Great Flattening’’ ที่สำคัญ ได้แก่:

  • การลดจำนวนตำแหน่งผู้จัดการ: องค์กรอาจรวมหรือตัดตำแหน่ง Middle Managers เพื่อลดต้นทุน
  • การเปลี่ยนแปลงบทบาท: จากการควบคุมและสั่งการ กลายเป็นการประสานงานและสนับสนุนทีม
  • ความคาดหวังใหม่: ต้องมีทักษะที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การใช้เทคโนโลยี การโค้ชพนักงาน และการบริหารจัดการในสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่น

 ต้องการอ่านอย่างละเอียด อ่านที่ "The Great Flattening เทรนด์การการลดจำนวนชั้นบริหารระดับ Middle Managers"   กดอ่านที่นี่ 

 


แนวทางการปรับตัวสำหรับคนทำงาน, Middle Management และคนทำงาน Gen X


อาจารย์เก๋ได้รวบรวมแนวทาง เพื่อให้สามารถรับมือกับกระแส ‘‘The Great Flattening’’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Middle Managers และ Gen X ควรพิจารณาแนวทางต่อไปนี้:

 

1. พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี

ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นหัวใจของการทำงาน องค์กรที่แบนลงมักพึ่งพาเครื่องมือดิจิทัล เช่น ซอฟต์แวร์จัดการโปรเจกต์ หรือแพลตฟอร์มการสื่อสาร  Middle Managers ควร:

  • เรียนรู้เครื่องมือดิจิทัล: ฝึกใช้ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล
  • เข้าใจแนวโน้มเทคโนโลยี: ติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI, Automation ต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน
  • พัฒนาทักษะ Data Literacy: ความสามารถในการวิเคราะห์และตีความข้อมูลจะช่วยให้ Middle Managers สามารถสนับสนุนการตัดสินใจของทีมได้ดีขึ้น

 

2. เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ควบคุม” สู่ “โค้ชและผู้นำ”

ในโครงสร้างที่แบนลง Middle Managers ไม่ได้มีหน้าที่สั่งการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นผู้นำที่สนับสนุนและพัฒนาทีม แนวทาง ได้แก่:

  • พัฒนาทักษะการโค้ช: เรียนรู้เทคนิคการโค้ช เช่น การตั้งคำถามที่กระตุ้นความคิด (Coaching Questions) หรือการให้ Feedback ที่สร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้พนักงานเติบโต
  • ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม: สร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันโดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
  • พัฒนาทักษะการบริหารความขัดแย้ง: ในโครงสร้างที่แบนลง การประสานงานระหว่างทีมอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง Middle Managers ต้องมีทักษะในการแก้ไขปัญหาและสร้างความสมดุล

 

3. สร้างความยืดหยุ่นและทัศนคติแห่งการเรียนรู้

คนทำงาน หรือ คน Gen X ซึ่งเติบโตในยุคที่โครงสร้างองค์กรมีลำดับชั้นชัดเจน อาจต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง:

  • เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่: เข้าร่วมคอร์สออนไลน์ เช่น Skilllane, Coursera, LinkedIn Learning หรือ Udemy เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ๆ เช่น การบริหารจัดการแบบ Agile หรือ Design Thinking, Coaching เป็นต้น (สนใจหลักสูตร Course Online Design Thinking สอนโดย อ.เก๋ ศศิมา สุขสว่าง กดที่นี่
  • ยอมรับการเปลี่ยนแปลง: เปลี่ยนมุมมองจากความกลัวการสูญเสียตำแหน่งไปสู่การมองเห็นโอกาสในการเติบโตในบทบาทใหม่
  • สร้างเครือข่าย (Networking): เข้าร่วมงานสัมมนาหรือชุมชนวิชาชีพเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำในอุตสาหกรรม

 

4. เสริมสร้างคุณค่าของตัวเองในองค์กร

เพื่อให้ยังคงเป็นส่วนสำคัญขององค์กร คนทำงาน, Middle Managers ควรแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่ตนเองนำมาสู่ทีม:

  • เน้นผลลัพธ์ (Outcome-Oriented): แสดงให้เห็นถึงผลงานที่ส่งผลต่อเป้าหมายขององค์กร เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพของทีมหรือการทำงาน หรือการลดต้นทุนในโปรเจกต์
  • เป็นตัวกลางที่มีประสิทธิภาพ: ใช้ประสบการณ์ในการเชื่อมโยงระหว่างทีมและผู้บริหารระดับสูง เพื่อให้แน่ใจว่าวิสัยทัศน์ขององค์กรถูกสื่อสารอย่างชัดเจน
  • พัฒนาทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์: เข้าใจภาพรวมของธุรกิจและนำเสนอแนวคิดที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายในระยะยาวสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้

 

5. เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสายอาชีพ

ในกรณีที่ตำแหน่ง Middle Manager ถูกปรับลด Gen X ควรเตรียมพร้อมสำหรับทางเลือกอื่นๆ:

  • สำรวจโอกาสในสายงานใหม่: พิจารณาการเปลี่ยนไปทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การเป็นที่ปรึกษา (Consultant) หรือการทำงานในโปรเจกต์อิสระ (Freelance)
  • พัฒนาทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาด: ทักษะ เช่น การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) หรือการวิเคราะห์ข้อมูล ยังคงเป็นที่ต้องการในหลายอุตสาหกรรม
  • สร้าง Personal Brand: ใช้แพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญและสร้างชื่อเสียงในวงการ

 

ความท้าทายที่คนทำงาน, Middle Managers และ Gen X อาจเผชิญ

  1. ความรู้สึกไม่มั่นคง: การลดชั้นผู้จัดการอาจทำให้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในงาน การสร้างความมั่นใจในทักษะและคุณค่าของตนเองจะช่วยลดความกังวลนี้
  2. ช่องว่างระหว่างวัย: Gen X อาจรู้สึกว่าต้องแข่งขันกับคนรุ่นใหม่ (Millennials และ Gen Z) ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีมากกว่า การพัฒนาทักษะดิจิทัลจะช่วยลดช่องว่างนี้
  3. การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่: การเปลี่ยนจากวัฒนธรรมการทำงานแบบลำดับชั้นไปสู่แบบยืดหยุ่นอาจต้องใช้เวลาและความพยายาม

 

สรุป

‘‘The Great Flattening’’ เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับคนทำงาน , Middle Managers และ Gen X การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ต้องอาศัยการพัฒนาทักษะใหม่ๆ การเปลี่ยนบทบาทจากผู้ควบคุมไปสู่ผู้นำที่สนับสนุนทีม และการสร้างความยืดหยุ่นในแนวคิดและการทำงาน ด้วยการลงทุนในตัวเอง ทั้งในด้านทักษะดิจิทัล การโค้ช และการคิดเชิงกลยุทธ์ Middle Managers และ Gen X สามารถรักษาความสำคัญในองค์กรและเติบโตในยุคที่โครงสร้างองค์กรกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

 

อ.เก๋หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่แวะมาอ่านนะคะ หากองค์กรของคุณกำลังมองหาหลักสูตรหรือเวิร์กช็อปที่เกี่ยวกับ Smart Coaching and Mentoring สำหรับผู้นำ  หรือ สำหรับ Self Coaching เพื่อรับมือกับ กระแส “The Great Flattening” การพัฒนากระบวนการทำงานโดยมี ‘คน’เพื่อให้ผู้บริหารสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นโค้ชและพี่เลี้ยงพนักงาน Gen Y, Gen Z ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  หรือ พนักงาน Gen Y Gen Z สามารถโค้ชตัวเองได้ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ อ.เก๋ยินดีออกแบบให้เหมาะกับบริบทของแต่ละทีมค่ะ

 

หลักสูตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

1.  Smart Coaching and Mentoring  for Leader ทักษะการโค้ชและพี่เลี้ยงสำหรับผู้นำในโลกยุค The Great Flattening

2. Self Awareness and Self Management for Working การตระหนักรู้และการจัดการตัวเองสำหรับพนักงานรุ่นใหม่

3. Self Coaching for Performance working ทักษะการโค้ชตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

 

สนใจรายละเอียดหลักสูตรฉบับเต็ม โปรดติดต่ออาจาย์เก๋- ศศิมา สุขสว่าง ได้ทางอีเมล์ sasimasuk.com@gmail.com

 

อ้างอิง :

Forbes.com  บทความ "How ‘The Great Flattening Trend’ Could Affect Your Workplace" 

Entrepreneurssource.com  บทความ "The Great Flattening"

 ....................................

ติดต่อวิทยากรสัมมนาอบรม In-House training ด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนานวัตกรรม หรือติดตามบทความ ได้ที่

   

 

อ.ศศิมา สุขสว่าง (เก๋)อาจารย์ศศิมา สุขสว่าง -อ.เก๋

บริษัทเอชซีดี อินโนเวชั่น จำกัด

Email : sasimasuk.com@gmail.com

Line ID : sasimasuk.com หรือเบอร์โทร. 0815609994

Website: http://www.sasimasuk.com/  

FB: https://www.facebook.com/CreativetoInnovation/

Tel:  081-5609994

Youtube: https://www.youtube.com/innoinninecreativetoinnovation

 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

หรือส่งข้อมูลมาทาง sasimasuk.com@gmail.com ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 1 วันค่ะ
Visitors: 405,004