Adaptive Thinking พัฒนาความคิดยืดหยุ่น เพื่อก้าวทันโลกยุค AI โดย อ.ศศิมา สุขสว่าง

.เก๋เชื่อว่า หลายๆคนตอนนี้ รู้สึกว่า  “โลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็ว” แต่ในความเป็นจริง ความเร็วที่พูดถึงอาจยังไม่เพียงพอจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ เพราะทุกวันนี้สิ่งที่เคยใช้เวลา 10 ปีในการเปลี่ยนแปลง กลับเกิดขึ้นภายใน 1–2 ปี และหลายครั้งเพียงไม่กี่เดือน ผู้ที่อยู่หน้างานจึงรู้สึกเหมือนโลกหมุนเร็วจนแทบหายใจไม่ทัน 

 

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ คือแรงเร่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้รุนแรงและชัดเจนยิ่งขึ้น จากเดิมที่องค์กรใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเก็บข้อมูลหรือช่วยงานเอกสาร วันนี้ AI สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การออกแบบ การเขียนโค้ด หรือแม้แต่การสร้างคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์ที่เคยเชื่อกันว่า “มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้”

 

อ.เก๋เองก็ได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบจาก AI เช่นกัน เช่น บางหลักสูตรของเก๋ ก็ถูกทดแทนโดย AI เป็นต้น ลูกค้าลดจำนวนหลักสูตรสัมมนาลง ไม่ต้องเรียนรู้จากวิทยากรแล้ว แต่ให้เรียนรู้จาก AI แทนเป็นต้น

 

แต่ในเชิงบวก อ.เก๋ได้รับสิ่งดีๆจาก AI เยอะมาก ทั้งในแง่ของการทำงานที่รวดเร็วขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ การพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ  และอีกมากมากมาย บทความนี้ จึงอยากจะมาเขียนบทความ  Adaptive Thinking for the AI Era หรือ การพัฒนาความคิดยืดหยุ่น เพื่อก้าวทันโลกยุค AI  ใช้ AI เป็นเพื่อนคู่คิดมากกว่าเป็นคู่แค้นกันค่ะ เพราะเก๋ก็ใช้ Adaptive Thinking ปรับตัวมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่การรับมือกับ Online Learning, โรคระบาดโควิด, การใช้ AI มาทดแทนงานบางอย่าง ตลอดจนสภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

ทำไม AI จึงเปลี่ยนเกม?

เพราะมันไม่ได้มาแค่ช่วยลดต้นทุนหรือประหยัดเวลา แต่มัน เปลี่ยนโจทย์ ของการทำงานทั้งระบบ งานจำนวนมากที่เคยเป็นทักษะเฉพาะ กลับกลายเป็นสิ่งที่ AI สามารถทำได้ดีและรวดเร็วกว่า เช่น

  • งานกฎหมายที่ต้องตรวจสอบเอกสารจำนวนมาก
  • งานบัญชีและวิเคราะห์ตัวเลขที่ซับซ้อน
  • งานครีเอทีฟที่ต้องสร้างไอเดียหลากหลายอย่างต่อเนื่อง

องค์กรที่สามารถนำ AI มาใช้ได้ทัน จะไม่เพียงแค่ทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังสามารถสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่องค์กรที่ยังคงทำงานในรูปแบบเดิมอาจพบว่า สิ่งที่เคยมั่นคง กำลังกลายเป็นจุดอ่อน

 

ความเสี่ยงที่แท้จริงไม่ใช่ AI

หลายคนกังวลว่า AI จะมาแย่งงาน แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ เราไม่รู้ว่าเมื่อไรงานของเราจะถูกแทนที่ และจะปรับตัวทันหรือไม่ ยิ่งในบริบทประเทศไทยที่หลายองค์กรยังใช้โครงสร้างการทำงานแบบเดิม ไม่ได้เตรียมระบบหรือทักษะบุคลากรเพื่อรับมือ คลื่นลูกใหม่นี้อาจกลายเป็น “พายุ” ที่ซัดจนไม่เหลือโอกาสให้ลุกขึ้นยืน

 

แล้วเราจะรับมืออย่างไร?

คำตอบอยู่ที่การสร้างความสามารถใหม่ที่เรียกว่า Adaptive Thinking — ความสามารถในการคิดอย่างยืดหยุ่น ปรับมุมมอง และหาทางออกในสภาพที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การฝึกให้ทีมงานและองค์กร “มอง AI เป็นเพื่อนร่วมทีม” แทนที่จะมองเป็นคู่แข่ง จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ

 

โลกยุคใหม่ไม่ได้ถามเราว่า “คุณเก่งอะไร” แต่ถามว่า “คุณจะเรียนรู้และปรับตัวได้เร็วแค่ไหน” เพราะความไม่แน่นอนจะไม่หายไปไหน แต่ถ้าเรามีความคิดที่ยืดหยุ่น เราจะสามารถเปลี่ยนความไม่แน่นอนให้กลายเป็นโอกาส และขี่คลื่นการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม

 

Adaptive Thinking คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกว่าที่เคย

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Critical Thinking หรือ Strategic Thinking ที่เน้นการคิดอย่างมีระบบและการวางแผนเพื่ออนาคต แต่ในยุคที่กติกาโลกเปลี่ยนตลอดเวลาเพราะ AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ คำถามคือ การคิดเหล่านี้เพียงพอแล้วหรือยัง?

ความจริงก็คือ ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างวิเคราะห์เก่งแค่ไหน วางกลยุทธ์รอบคอบเพียงใด หากโลกเปลี่ยนโจทย์ขึ้นมาทันที ความคิดที่แข็งตัวเกินไปก็จะกลายเป็น “ข้อจำกัด” มากกว่าจุดแข็ง และนี่คือเหตุผลที่เราเริ่มพูดถึง Adaptive Thinking – การคิดแบบยืดหยุ่น

 

Adaptive Thinking คืออะไร?

Adaptive Thinking คือ ความสามารถในการปรับมุมมอง วิธีคิด และการตัดสินใจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนแผนได้เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยน และหาทางออกใหม่ ๆ ได้แม้โจทย์ไม่เหมือนเดิม

 

Adaptive Thinking  มีกรอบคิดนี้ตั้งอยู่บน 4 เสาหลักสำคัญ:

 

1.Flexibility (ความยืดหยุ่น) – เปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับวิธีเดิม

ตัวอย่าง:
- นักการตลาดที่วางแผนแคมเปญออนไลน์ไว้ล่วงหน้า 3 เดือน แต่เมื่อเกิดกระแสไวรัลใหม่ในโซเชียล เขาปรับแผนทันที ใช้กระแสนี้เสริมคอนเทนต์ ทำให้แบรนด์ได้การมองเห็นเพิ่มขึ้นหลายเท่า

บริษัทโรงแรมที่เคยพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เมื่อเจอปัญหาเศรษฐกิจหรือโรคระบาด ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็ว หันมาเจาะตลาด Local Staycation และเปิดบริการ Delivery อาหารแทน

 

2.Resilience (การฟื้นตัวเร็ว) – ล้มได้ แต่ลุกไว พร้อมเรียนรู้จากความผิดพลาด

- ตัวอย่าง
พนักงานขายที่พลาดเป้าการขายไตรมาสแรก ไม่มัวเสียใจ แต่รีบวิเคราะห์ข้อผิดพลาด นำ Feedback มาปรับวิธีนำเสนอ และสามารถทำยอดทะลุเป้าในไตรมาสถัดมา

 

3.Experimentation (การทดลอง) – กล้าลองสิ่งใหม่ แม้ไม่รู้ผลลัพธ์แน่ชัด

 ตัวอย่าง
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทดลองใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด แม้จะยังไม่มั่นใจผลลัพธ์ แต่กลับพบว่าสามารถลดเวลาทำงานลง 30% และได้โค้ดต้นแบบที่นำไปพัฒนาต่อได้เร็วขึ้น

 

 

4.Learning Agility (ความเร็วในการเรียนรู้) – หยิบจับสิ่งใหม่มาเรียนรู้และใช้ได้ทันที

ตัวอย่าง
- หัวหน้าทีม HR ที่ไม่เคยใช้ AI มาก่อน แต่เมื่อองค์กรเริ่มนำ AI HR Analytics เข้ามา เธอลงคอร์สออนไลน์สั้น ๆ ศึกษาด้วยตัวเอง และสามารถนำ AI มาประเมิน Engagement ของพนักงานได้ภายในไม่กี่สัปดาห์

 

นี่คือภาพชัดเจนของ Adaptive Thinking — การมองเห็นการเปลี่ยนแปลง ปรับแผน และลงมือทำอย่างกล้าได้กล้าเสีย

 

ข้อคิดส่งท้าย

Adaptive Thinking ไม่ได้ทำให้คุณชนะทุกครั้ง แต่ทำให้คุณ “อยู่รอด” ในโลกที่เปลี่ยนตลอดเวลา และที่สำคัญ มันทำให้คุณมีความกล้าที่จะก้าวเข้าสู่อนาคต แม้ไม่รู้แน่ว่าจะเจอกับอะไร  เพราะในยุค AI สิ่งที่แน่นอนที่สุด คือความไม่แน่นอน และผู้ที่คิดได้อย่างยืดหยุ่นเท่านั้น ที่จะไม่เพียงแค่รับมือได้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้จากทุกการเปลี่ยนแปลง

 

อาจารยเก๋หวังว่า บทความนี้ จะมีประโยชน์และให้แง่คิดกับผู้อ่านบ้างนะคะ หากองค์กรใดสนใจหลักสูตร  Adaptive Thinking for Performance working การคิดแบบยืดหยุ่นเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ติดต่ออาจารย์เก๋ได้เลยนะคะ รายละเอียดหลักสูตรเบื้องต้น ตามลิงค์นี้ค่ะ กดอ่านที่นี่  

หากต้องการหลักสูตรฉบับเต็ม ติดต่ออาจารย์เก๋เพื่อรับรายละเอียดหลักสูตรและใบเสนอราคาได้ที่

E-Mail : sasimasuk.com@gmail.com หรือ Line ID : 0815609994 ได้เลยค่ะ

 

....................

 ติดต่อวิทยากรสัมมนาอบรม In-House training ด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนานวัตกรรม หรือติดตามบทความ ได้ที่

   

 

อ.ศศิมา สุขสว่าง (เก๋)อาจารย์ศศิมา สุขสว่าง -อ.เก๋

บริษัทเอชซีดี อินโนเวชั่น จำกัด

Email : sasimasuk.com@gmail.com

Line ID : sasimasuk.com หรือเบอร์โทร. 0815609994

Website: http://www.sasimasuk.com/  

FB: https://www.facebook.com/CreativetoInnovation/

Tel:  081-5609994

Youtube: https://www.youtube.com/innoinninecreativetoinnovation

 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

หรือส่งข้อมูลมาทาง sasimasuk.com@gmail.com ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 1 วันค่ะ
Visitors: 405,959