3W- What–Why–What If แค่เปลี่ยนคำถาม ทีมคุณก็อาจมองเห็นทางใหม่ โดยอ.ศศิมา สุขสว่าง

วันนี้อาจารย์เก๋อยากชวนคุยเรื่อง “การตั้งคำถาม”
ฟังดูเบา ๆ ใช่ไหมคะ… แต่ในชีวิตจริง ทั้งการทำงาน การประชุม หรือแม้แต่การบริหารทีม
เราจะพบว่าคำถามที่ดีสามารถเปิดทางให้เกิดไอเดีย การเรียนรู้ และการเปลี่ยนแปลงได้แบบมหาศาล

และหนึ่งในเทคนิคที่เก๋ใช้บ่อยมาก ทั้งเวลาทำเวิร์กช็อปให้ทีมงาน หรือเวลาช่วยผู้บริหารคิดแผนใหม่
คือ Framework ง่าย ๆ ที่เรียกว่า3W: What – Why – What If

ใครที่เป็นหัวหน้า / ผู้จัดการ / หรือแม้แต่นักคิดในองค์กร
ลองฟังแนวทางนี้ไว้ แล้วเอาไปปรับใช้ได้เลยนะคะ

 

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

หลายครั้งที่เรา “ติดอยู่ในปัญหาเดิม ๆ” ไม่ใช่เพราะขาดคำตอบ
แต่เพราะเราใช้ “คำถามเดิม ๆ” อยู่ต่างหากค่ะ

3W คือชุดคำถามที่ช่วยให้เรามองปัญหาอย่างลึก แต่ก็เปิดให้มองหาโอกาสอย่างกว้าง
เหมาะมากกับสถานการณ์ที่ทีมตัน สมองตื้อ หรือประชุมแล้วไม่มีใครกล้าพูด 

 

 

3W เพื่อสำรวจแนวทางใหม่

1. What – เกิดอะไรขึ้นแน่ ๆ ?

 เหตุผล:   ถ้าเราไม่ตั้งหลักที่ “ข้อเท็จจริง” ทุกอย่างจะกลายเป็นความรู้สึก
 วิธีการ:    เริ่มด้วยคำถามกลาง ๆ เช่น

  • “ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง?”
  • “ลูกค้ามีพฤติกรรมอะไรที่เปลี่ยนไป?”
 
 
ตัวอย่าง:

หัวหน้าทีมการตลาดบอกว่า “ยอด Engagement ลดลง”

เก๋จะถามต่อว่า “ตัวเลขคืออะไร?” → พบว่า Reels ยอดดูตก แต่บทความกลับมียอด Save เพิ่มขึ้น
→ นี่คือข้อมูลที่จะนำไปสู่การปรับกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ “รู้สึกว่ากระแสเงียบลง”

 

2. Why – ทำไมถึงเป็นแบบนี้?

เหตุผล:   คำถาม “ทำไม” จะค่อย ๆ ล้วงลึกไปถึงรากของปัญหา
วิธีการ:    ใช้ “5 Whys” หรือก้างปลา (Fishbone) ก็ได้


ตัวอย่าง:
ปัญหา: ลูกค้าหายไป
→ ทำไม? เพราะไม่ได้ติดตาม
→ ทำไมไม่ได้ติดตาม? เพราะไม่มีระบบ CRM
→ ทำไมไม่มีระบบ? เพราะไม่มีใครรับผิดชอบดูแลข้อมูล
→ สุดท้ายเจอแล้ว: ปัญหาคือขาดเจ้าของงาน

หลายคนพยายามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
แต่คำถาม “Why” จะพาเรากลับมาที่ต้นตอค่ะ

 

3. What If – ถ้าเราลองแบบนี้ล่ะ?

เหตุผล:   เป็นคำถามสำหรับ “เปิดพื้นที่ใหม่” ให้ความคิดสร้างสรรค์ทำงาน
วิธีการ:    ใช้กับทีมได้เลย เช่น

  • “ถ้าเราลองใช้วิธีใหม่ ๆ โดยไม่กลัวผิด จะลองอะไรบ้าง?”
  • “ถ้าต้องเริ่มโปรเจกต์นี้ใหม่จาก 0 ใน 1 สัปดาห์ จะทำยังไง?”


ตัวอย่าง:
ลูกค้าทดลองสินค้าน้อยลง →ทีมเสนอว่า“ถ้าลองเปลี่ยนจาก‘แจกคูปอง’เป็น‘ให้ทดลอง 7  วันโดยไม่ต้องซื้อ’ ล่ะ?”
ผลคือ: อัตราทดลองเพิ่มขึ้น และกลับมาซื้อจริง 60% ภายใน 2 สัปดาห์!

 

สรุป: เปลี่ยนคำถาม = เปลี่ยนมุมมอง = เปลี่ยนผลลัพธ์

 

Framework 3W ไม่ใช่แค่ใช้ตอนมีปัญหา
แต่ใช้ได้ทุกครั้งที่คุณอยาก “ให้ทีมคิดเองได้ พูดออกมาได้ และสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ได้”

ลองเอาไปใช้กับทีม หรือกับตัวเองก็ยังได้ค่ะ
เพราะบางครั้ง... คำตอบที่ดี เริ่มจาก “คำถามที่กล้าพอจะถาม”

.

หากท่านอยากฝึกใช้ 3W กับทีมจริง ๆ หรืออยากจัด สัมมนา & workshop "ทักษะการถามเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานหรือนวัตกรรม "ให้หัวหน้าหรือพนักงานคิดให้แตก ได้ไอเดียใหม่ๆ

อาจารย์เก๋มีหลักสูตรและเวิร์กช็อปที่ออกแบบมาเฉพาะด้านการพัฒนาความคิดเชิงนวัตกรรม
ให้ทั้งคิดเป็น-ทำเป็น-เปลี่ยนได้จริงในองค์กรนะคะ

 

Creative to Innovation เป็นพื้นที่แบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวคิดเรื่องกระบวนการและเทคนิคการคิดสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรม  โดยถ่ายทอดจากประสบการณ์การทำงานด้านการวิจัยพัฒนานวัตกรรม ให้คำปรึกษา การสอนด้านการพัฒนานวัตกรรมของผู้เขียน (ศศิมา) ซึ่งเป็นนักพัฒนานวัตกรรมหรือนวัตกร (Innovator)  และผันตัวมาแบ่งปัน อบรมสัมมนาให้คำปรึกษาด้านการพัฒนานวัตกรรม  โดยการอบรมสัมมนาจะยึดหลัก 3Fs - Fun (สนุก) -Full (เต็มไปด้วยสาระ) - Friend (มิตรภาพการทำงานเป็น Team Work)

.................................

ติดต่อวิทยากรสัมมนาอบรม In-House training ด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนานวัตกรรม หรือติดตามบทความ ได้ที่ 

   

 

อ.ศศิมา สุขสว่าง (เก๋)อาจารย์ศศิมา สุขสว่าง -อ.เก๋

บริษัทเอชซีดี อินโนเวชั่น จำกัด

Email : sasimasuk.com@gmail.com

Line ID : sasimasuk.com หรือเบอร์โทร. 0815609994

Website: http://www.sasimasuk.com/  

FB: https://www.facebook.com/CreativetoInnovation/

Tel:  081-5609994

Youtube: https://www.youtube.com/innoinninecreativetoinnovation

 

 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

หรือส่งข้อมูลมาทาง sasimasuk.com@gmail.com ทางเราจะติดต่อกลับภายใน 1 วันค่ะ
Visitors: 402,491